หน้าหลัก > ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Max Me Wallet
แอปพลิเคชัน Max Me Shop
ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด

บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด (“บริษัท”)ใให้ความสำคัญ และเคารพความเป็นส่วนตัว และตระหนักถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย และตามมาตรฐานสากล


บริษัทจึงได้ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (““นโยบาย””) ฉบับนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อแจ้งรายละเอียดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการจัดการเพื่อรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะลูกค้า คู่ค้า คู่สัญญา ในปัจจุบัน ในอดีต และอาจเป็นลูกค้า หรือคู่ค้าในอนาคต พนักงานบุคคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ตัวแทน ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล กรรมการ ผู้ติดต่อ และบุคคลธรรมดาอื่นที่กระทำในนามนิติบุคคล ซึ่งเป็นลูกค้า หรือคู่ค้านิติบุคคลของบริษัท ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก และ/หรือต่างประเทศนั้น ได้รับ ความคุ้มครอง และเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


ในกรณีที่ท่านเป็นลูกค้าสมาชิกบริษัท แมกซ์ การ์ด ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในนโยบายความเป็นส่วนตัว https://www.maxcard.co.th/PrivacyNotice.html


นอกจากนี้ บริษัทได้กำหนดวิธีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไว้ สำหรับกรณีที่มีการเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรการ ที่เหมาะสม


คำนิยาม


“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ


“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนดให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ซึ่งบริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวไปยังบุคคลภายนอก และ/หรือต่างประเทศ เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทาการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด อนึ่ง เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ


“ลูกค้า” หมายถึง บุคคลที่จะซื้อหรือซื้อสินค้า และ/หรือรับบริการจากบริษัท หรือบุคคลอื่นที่ติดต่อสอบถามข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการของบริษัท บุคคลที่รับทราบข้อมูลสินค้า และ/หรือบริการผ่านสื่อต่าง ๆ และบุคคลที่ได้รับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้า และ/หรือบริการของบริษัท และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลที่เป็นลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทด้วย


“คู่ค้า” หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือบริการให้แก่บริษัท ไม่ว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัท หรือไม่ เช่น คู่สัญญา ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทด้วย


“ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ” หมายถึง บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกค้า คู่ค้า หรือผู้ปฏิบัติงานในกลุ่มบริษัทที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ เช่น ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยราชการซึ่งกำกับการประกอบธุรกิจหรือกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการธุรกิจหรือผู้เข้าร่วมโครงการธุรกิจ ผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนหรือผู้ร่วมลงทุน ตัวแทนหรือนายหน้าในการจัดหาสินค้าหรือบริการให้แก่บริษัท และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลนั้น


ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม


ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้


ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป

(1) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้าชื่อ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขที่บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ตำแหน่งงาน เลขที่ใบขับขี่ สัญชาติ อายุ สถานภาพทางการสมรส ลายมือชื่อ หมายเลขทะเบียนรถ ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบขับขี่ หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

(2) ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล

(3) ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ สถานที่ทำงาน

(4) ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลธุรกรรม หมายเลขบัตรเครดิต บัญชีชื่อผู้ใช้งานแอปพลิเคชันและรหัสผ่าน ข้อมูลคะแนนสะสม ข้อมูลการโอนคะแนนสะสมไปยังผู้ใช้บริการอื่น ข้อมูลการแลกเปลี่ยนคะแนนสะสมระหว่างพันธมิตรของบริษัท

(5) ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address หรือ Mac Address) คุกกี้ (Cookies ID) รหัสประจำอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ล็อก (Log) ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Log - In) ระยะเวลาที่เข้าถึง การใช้งานและระยะเวลาการใช้งานแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ข้อมูลทางเทคนิคอื่น ๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ

(6) ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เช่น ยี่ห้อรถ รุ่นรถ เลขทะเบียน เลขตัวถัง สีรถ ชื่อเจ้าของรถ ประเภทรถยนต์ ประเภทเชื้อเพลิงจำเพาะ ประกันภัย เลขไมล์ (Odometer) การติดตั้งระบบ NGV/LPG เป็นต้น

(7) ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบสารสนเทศ และเว็บไซต์ของบริษัท การบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด CCTV การบันทึกภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว เสียงเมื่อลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท การบันทึกเสียงสนทนาเมื่อท่านติดต่อระบบคอลเซ็นเตอร์ ข้อมูลพิกัดสถานที่ของท่านเพื่อระบุตำแหน่งร้านค้าใกล้เคียง ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลบนคำสั่งศาล คำสั่งเรียกพยานเอกสารหรือพยานวัตถุ ข้อมูลผู้คํ้าประกัน รายละเอียดการค้ำประกัน ข้อมูลอื่น ๆ ประกอบการใช้ผลิตภัณฑ์ / บริการ


ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

โดยทั่วไปแล้วบริษัทไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน หากแต่ในบางกรณี บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่านเพื่อประกอบการให้บริการหรือผลิตภัณฑ์แก่ท่าน เช่น ศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น) หรือเชื้อชาติตามสำเนาหนังสือเดินทางของบางประเทศ ข้อมูลชีวภาพ (Biometric) (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้เทคโนโลยีที่นำลักษณะเด่นทางพฤติกรรมของการลงลายมือชื่อดังกล่าวมาใช้สำหรับการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลที่เป็นผู้ลงลายมือชื่อนั้น) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ


นอกจากนี้ บริษัทยังได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Recognition) และลายนิ้วมือ ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือมีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้


โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวนี้ต่อเมื่อมีกฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น โดยบริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการระบุยืนยันตัวตน (Identity) การตรวจสอบข้อมูล (Verification) หรือการตรวจสอบสถานะต่าง ๆ (Due Diligence) ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) หรือการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer - KYC)


ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

บริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ หรือการใด ๆ ซึ่งผู้เยาว์อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี) และ / หรือดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ หากบริษัททราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ โดยปราศจากความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ หรือผู้เยาว์ที่อาจให้ความยินยอมโดยลำพังได้ตามกฎหมาย (แล้วแต่กรณี) และไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้ บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้น


ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี หรือเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นคนไร้ความสามารถ บริษัทขอให้ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการในนามของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และเป็นผู้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ อนึ่ง หากบริษัทพบว่าได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมตามกฎหมายจากผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือ ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามเงื่อนไขดังกล่าว บริษัทฯ ขอปฏิเสธการดำเนินการใด ๆ ตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลทันที เว้นแต่การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะสามารถดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย


อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นลูกค้าสมาชิกที่เป็นผู้เยาว์ อายุต่ำกว่า 13 ปี บริษัทขอปฏิเสธการดำเนินการใดๆ ตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว


ช่องทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล


ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัท หรือมีอยู่กับบริษัททั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม เข้าร่วมกิจกรรม ค้นหา ผ่านช่องทางให้บริการ และ / หรือ ช่องทางการติดต่อต่าง ๆ ของบริษัท เช่น สำนักงานใหญ่ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ตัวแทนขายสินค้า หรือบริการ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ ข้อความสั้น (SMS) แบบสอบถาม นามบัตร การประชุม อบรม สัมมนา งานอีเว้นท์ สันทนาการ กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาด การพบปะ หรือช่องทางอื่นใด เป็นต้น


ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานของรัฐ บริษัทในกลุ่มในเครือของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทที่ร่วมออกผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการกับบริษัท ผู้ให้บริการข้อมูล ลูกค้าของบริษัท บุคคลหรือนิติบุคคลที่มาทำธุรกรรมกับบริษัท (ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดังกล่าวตามที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น) สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น ราชกิจจานุเบกษา) ผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น


วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท การดำเนินการเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน หรือการดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้


ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ฐานการปฏิบัติ/หน้าที่ตามกฎหมาย (Legal Obligation)
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือการดำเนินธุรกิจ เช่น การนำส่งข้อมูลให้แก่หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด, การปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย, การดำเนินการเกี่ยวกับการขออนุญาต หรือ การออกใบอนุญาตตามกฎหมาย, การชำระค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย, การก่อตั้งหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือทางศาล, การจัดประชุมและจ่ายค่าตอบแทนตามที่ท่านมีสิทธิได้รับตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
ฐานสัญญา (Contract)
เพื่อความจำเป็นในการติดต่อซื้อขายสินค้า หรือบริการ หรือปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อพิจารณาดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา เช่น การติดต่อสื่อสารเพื่อซื้อขายสินค้าและบริการ, การทำสัญญา, การดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกเก็บ หรือชำระค่าสินค้าหรือบริการ, การพิจารณาคัดเลือกเพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง, การจัดส่งหรือรับสินค้าหรือบริการ, การชำระค่าตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่ง, การตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานตามสัญญา เป็นต้น
ฐานประโยชน์อันชอบธรรมด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น ตรวจสอบความถูกต้อง หรือคุณภาพสินค้าหรือบริการตามมาตรฐานสากล, การสืบสวนสอบสวนหรือสอบยันข้อเท็จจริง หรือเพื่อป้องกัน ควบคุม หรือสอบสวนเหตุทุจริต หรือเพื่อป้องกันความปลอดภัย, การตรวจสอบหรือขอคำปรึกษาทางกฎหมายภาษีอากรหรือบัญชี เป็นต้น
ฐานความยินยอม (Consent)

เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน สำหรับท่านผู้ใช้บริการที่เป็นลูกค้าทั่วไป บริษัทอาจจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด และเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการส่งข้อมูลข่าวสาร การโฆษณา การจัดทำแคมเปญ ดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายและการตลาด, การจัดส่งโปรโมชัน สิทธิประโยชน์ หรือส่วนลด หรือเชิญชวนร่วมกิจกรรม รวมถึงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่าน ให้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด รวมถึงบริษัทในเครือ บริษัทย่อย บริษัทร่วมทุน คู่ค้า พันธมิตรและผู้ให้บริการของบริษัทดังกล่าว เพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การนำเสนอข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย การจัดสิทธิประโยชน์และโปรโมชัน การจัดทำแคมเปญต่าง ๆ การนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ และการวิเคราะห์การใช้สินค้าหรือบริการของสมาชิก


สำหรับท่านผู้ใช้บริการที่เป็นร้านค้า หรือผู้ประกอบการ บริษัทอาจจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า และ/หรือบริการของท่าน เพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับวัตถุประสงค์ด้านการตลาด และให้ท่านได้รับประโยชน์ในการซื้อสินค้า และบริการของบริษัท เช่น การส่งข้อมูลข่าวสาร การโฆษณา การจัดทำแคมเปญ รายการส่งเสริมการขาย การเสนอโปรโมชัน สิทธิประโยชน์ และเพื่อเชิญชวนให้ท่านเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ท่านได้ระบุความสนใจไว้แก่บริษัท


วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า และ/หรือบริการของท่าน เพื่อจัดทำโปรโมชัน หรือส่วนลดในสินค้าหรือบริการให้ตรงใจตรงกับความต้องการของท่าน เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า และ/หรือบริการของท่าน ให้แก่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด รวมถึงบริษัทในเครือ บริษัทย่อย บริษัทร่วมทุน คู่ค้า พันธมิตร และผู้ให้บริการของบริษัทดังกล่าว เพื่อประมวลผลข้อมูลสำหรับวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การนำเสนอข่าวสาร รายการส่งเสริมการขาย การจัดสิทธิประโยชน์และโปรโมชัน การโฆษณา การจัดทำแคมเปญต่าง ๆ การนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ และ การวิเคราะห์การใช้สินค้าหรือบริการของสมาชิก


การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน


บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยที่ผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ

โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ตามแต่ความสัมพันธ์และการทำธุรกรรมของท่าน ดังต่อไปนี้

1. บริษัทในกลุ่มในเครือของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)
2. ผู้ให้บริการของบริษัท
3. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
4. บุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
5. ที่ปรึกษา / ผู้เชี่ยวชาญ
6. บุคคลที่สามอื่นใด

การโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ


เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ โดยบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด


บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ (Server) หรือคลาวด์ (Cloud) ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูป และรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของของท่าน ทั้งนี้ บริษัทจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และบริษัทจะกำหนดให้บุคคลเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม


กรณีที่บริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล หรือเอกสาร ผู้ให้บริการ Server/Cloud โดยมีวัตถุประสงค์ที่จำเป็นเพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลหรือเอกสารแทนบริษัทไว้บน Server/Cloud ในประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ประเทศของผู้รับข้อมูลมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่น้อยกว่าประเทศไทย หรือในกรณีที่เป็นการส่งหรือโอนภายใต้ขอบเขตของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในกรณีนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ให้บริการหรือผู้รับข้อมูลของบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยวิธีการที่ปลอดภัย เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล


การโอนสิทธิ หน้าที่ และข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลนอก และ/หรือธุรกิจอื่น ๆ

ท่านยอมรับ และตกลงว่าบริษัทอาจจะทำการควบรวมกิจการ แยกธุรกิจ โอนย้ายธุรกิจ จัดตั้งธุรกิจใหม่ หรือกระทำการอื่นใด ซึ่งอาจเป็นผลให้มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และผู้ใช้บริการทั้งหมด หรือบางส่วนที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ไปยังบรรดาบริษัทย่อย บริษัทในเครือ บริษัทร่วมทุน และ/หรือธุรกิจที่ควบรวมกิจการ หรือธุรกิจที่ได้แยกการดำเนินงานออกไป หรือธุรกิจที่ถูกโอนย้าย หรือธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นใหม่ หรือบุคคลภายนอกใด ๆ ต่อไปได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านอีก


การเก็บรักษา ระยะเวลา และมาตรการความปลอดภัย


บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยจะพิจารณาระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับระยะเวลาตามสัญญา, อายุความกฎหมาย รวมถึงความจำเป็นที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทโดยจะเก็บไว้เป็นเวลาไม่เกิน 10 ปี ภายหลังจากวันที่ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มบริษัทสิ้นสุดลง หรือนับแต่การติดต่อครั้งสุดท้ายกับกลุ่มบริษัท


บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการเชิงองค์กร (Organizational Measure) มาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการทางกายภาพ (Physical Measure) เพื่อรักษาความลับของข้อมูล การคงความถูกต้องครบถ้วนและทำให้ข้อมูลพร้อมใช้งาน รวมทั้งเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ


โดยบริษัทได้ใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลภายในบริษัทและการบังคับใช้อย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการจัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการเข้าใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งบริษัทยังได้จัดให้มีมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าถึงข้อมูลได้ และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผยการล่วงรู้หรือการลักลอบ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทกำหนดให้ผู้บริหาร พนักงาน ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทกำหนด รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้ หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน


สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล


สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและ / หรือมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์


1. สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ โดยการถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กระทำขึ้นก่อนการถอนความยินยอม

ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการขอรับบริการ อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือให้บริการกับท่านได้ หรืออาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว หรืออาจส่งผลกระทบต่อท่านในการรับทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการต่าง ๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับข้อเสนอผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ สิทธิประโยชน์ โปรโมชันหรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการที่ถูกใจมากยิ่งขึ้นและสอดคล้องหรือตรงตามความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม

2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

4. สิทธิขอคัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย

5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราว ในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอใช้สิทธิคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8. สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

เมื่อได้รับการร้องขอใช้สิทธิจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หน่วยงานรับเรื่องจะต้องดำเนินการตามสิทธิที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลร้องขอโดยไม่ชักช้าภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอถูกต้องและครบถ้วน ยกเว้นกรณีการขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ให้ดำเนินการโดยไม่ชักช้าแต่ต้องไม่เกิน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ ตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่บริษัทและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ซึ่งอย่างน้อยจะต้องมีการตรวจสอบหลักฐานการยืนยันตัวตนว่าผู้ขอใช้สิทธิเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตัวจริง หรือเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ พาสปอร์ต และหนังสือมอบอำนาจ เป็นต้น และมีการบันทึกรายละเอียดการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้บริษัทและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม หากเป็นการใช้สิทธิที่ต้องมีผลในทันทีหรือเป็นการใช้สิทธิที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ ให้บริษัทดำเนินการตามที่กฎหมายนั้นกำหนด

คุกกี้ (Cookies) และการใช้คุกกี้


บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท รวมถึงการใช้เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของบริษัทการเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถจดจำท่าน ทราบถึงความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่บริษัทจะเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น)

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.maxcard.co.th/CookiesPolicy.html


การปรับปรุงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว


บริษัทอาจทบทวน ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือมีการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ ข้อกำหนด ระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้แล้ว บริษัทจะเผยแพร่นโยบายฉบับปรับปรุงลงในเว็บไซต์และช่องทางอื่น ๆ ของบริษัทโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ท่านได้พิจารณา และดำเนินการยอมรับด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ วิธีการอื่นใด และหากว่าท่านในฐานะผู้ใช้งานได้ดำเนินการเพื่อยอมรับนั้นเรียบร้อยแล้ว ให้ถือว่านโยบายที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายฉบับนี้ด้วย

การกำกับดูแลในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอาจจะมอบหมายให้บุคคลภายนอก ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการนี้บริษัทจะกำกับดูแลให้ผู้ประมวลผล และผู้ประมวลผลช่วง (ถ้ามี) มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้ รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย

ช่องทางการติดต่อบริษัท

หากท่านต้องการใช้สิทธิใด ๆ ที่มีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งได้ระบุไว้ข้างต้น หรือมีคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท มีข้อเสนอแนะ หรือต้องการร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ในช่องทางดังต่อไปนี้



รายละเอียดการติดต่อ

บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด
90 อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ เอ ชั้นที่ 33 ถนนรัชดาภิเษก
แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์. 02-168-3377, 02-168-3388
เว็บไซต์ www.maxcard.co.th

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

[email protected]
บริษัท แมกซ์ การ์ด จำกัด ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ฉบับปรุงปรับ ประกาศ ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2567